ล่องแก่ง....สายน้ำ
ตื่นเต้นสนุกจนลืมเสียว

LINE it!

    ลองนึกย้อนไปสมัยเป็นเด็ก ตอนไปสวนสนุกเชื่อว่าหลายคนชื่นชอบเครื่องเล่นที่เรียกว่า “ล่องแก่งมหาภัย” เพราะให้ความรู้สึกเพลิดเพลินกับทัศนียภาพรอบข้าง บวกกับความระทึกใจเวลาเรือล่องลำน้ำตกกระทบผืนน้ำเบื้องล่างจนน้ำแตกกระจาย....หากเป็นเช่นนั้น ตอนโตขึ้นเขาคนนั้นน่าจะชอบกิจกรรม “ล่องแก่ง” ตามลำน้ำธรรมชาติของจริง

     ข้อจำกัดของกิจกรรมล่องแก่งก็คือ คุณไม่สามารถล่องแก่ง “ที่ไหนก็ได้” แต่ต้องไปเฉพาะสถานที่ซึ่งเหมาะสมเท่านั้น ทำให้มันเป็นเพียงกิจกรรมที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจในยามพักผ่อน ไม่ใช่กิจกรรมที่สามารถเล่นได้เป็นประจำทุกวัน

    คุณสามารถเล่นกิจกรรมล่องแก่งได้โดยพาหนะหลายชนิด อย่างที่เมืองไทยที่ขึ้นชื่อก็คือ ล่องแพไม้ไผ่ ขณะที่ต่างประเทศจะมีพวกเรือยาง หรือเรือแคนู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับลำน้ำนั้นๆ



    ในการล่องแก่งมีการจัดระดับความยากง่ายออกเป็น 6 ระดับ ตั้งแต่ง่ายมาก  ธรรมดา  ปานกลาง  ยาก  ยากมาก  และระดับสุดยอด ขึ้นอยู่กับความแรงของลำน้ำ ตั้งแต่ไหลเอื่อยๆ ไปจนถึงระดับ white water ซึ่งน้ำกระทบโขดหินแตกเป็นละอองฟองขาว คนจะเล่นกิจกรรมนี้ควรเรียนรู้ถึงสภาพของลำน้ำที่จะเล่นให้ดี

    อุปกรณ์ป้องกันอันตรายก็แตกต่างกันไปตามสภาพของลำน้ำเช่นกัน แต่หลักๆ ก็หนีไม่พ้นเสื้อชูชีพ กับหมวกกันกระแทก พร้อมสนับศอก และสนับเข่า ก็อาจต้องใส่ในบางที่

    สำหรับเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งคือ แต่ละรอบของการล่องแก่งล้วนมีความแตกต่าง ไม่เคยเหมือนกัน จึงไม่เหมือนความสนุกสนานจากการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก
 
 

    เมื่อเดินหน้าเข้าหาลำน้ำจะเห็นอุปสรรคข้างหน้ามากมาย ทั้งความเชี่ยวของลำน้ำ สภาพหินและแก่ง ต้นไม้และกิ่งไม้ริมธาร ดูแล้วเหมือนจะมีอันตรายอยู่รอบด้าน แล้วทำไมหลายคนจึงไม่ถอยหลังกลับ แถมยังนิยมกิจกรรมนี้ ก็เพราะว่ากิจกรรมนี้มีความปลอดภัยยิ่งกว่ากิจกรรมรับน้องหลายๆแห่งเสียอีก เพราะทุกขั้นตอนมีมาตรการป้องกันอันตรายเต็มพิกัด ไม่มีเหตุเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากความคึกคะนองหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์

     อย่างไรก็ตามหากเชื่อฟังคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ไม่ดื้อ ลองของ หรืออวดเก่ง เชื่อว่าจะได้รับความสนุกสนาน ตื่นเต้น เพลิดเพลิน จนลืมกลัวอันตรายไปเลยก็แล้วกัน และหากเดินทางผจญภัยกันเป็นหมู่คณะ ยังสามารถเสริมสร้างความสามัคคี ความรับผิดชอบ ความเสียสละ และน้ำใจระหว่างหมู่คณะด้วย



ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง


   - ก่อนที่จะทำการล่องแก่ง เราควรศึกษาและสำรวจเส้นทางของลำน้ำ และกระแสน้ำที่ไหลอย่างดีเสียก่อนว่า สายน้ำที่ไหลและทิศทางของน้ำไหลผ่านจุดใด และจุดใดเป็นช่วงยากหรือง่ายของแก่ง
   
    - อุปกรณ์ในการล่องแก่งไม่ว่าจะเป็นแพยาง หรือ แพไม้ไผ่ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนที่จะทำการล่องแก่ง
   
    - ก่อนการล่องแก่งควรฝึกซ้อมทักษะการพายเรือ การถ่อเรือ การจับไม้พาย และการนั่งการทรงตัวในเรือเสียก่อน

    - ควรมีความพร้อมในการเตรียมเครื่องป้องกันตัว โดยการสวมหมวกกันน๊อค เพื่อกันกระแทกบริเวณศรีษะ และเสื้อชูชีพเพื่อช่วยในการพยุงตัว หากเกิดหลุดจากแพ หรือเรือยาง



    - ส่วนเสื้อผ้าควรสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขาสั้น รองเท้าที่สวมควรเป็นรองเท้าที่มีสายรัดข้อเท้า ไม่ควรสวมรองเท้าแตะเด็ดขาด 

    - ในขณะล่องแก่ง ต้องมีกำลังใจให้เต็มที่ และตั้งสติ พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆในการล่องแก่ง
พร้อมกับต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้บังคับหัวเรือและท้ายเรือที่ให้สัญญาณบอกสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
   
     - และหากมีการรับประทานอาหาร หรือไปประกอบอาหารในป่า ควรเลือกรายการอาหารที่สะดวกง่ายและ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องกระป๋อง ภาชนะประเภทกล่องโฟม ขวดน้ำ พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เพื่อลดขยะ และมลพิษ ทุกครั้งที่เก็บแคมป์ ควรดูแลความสะอาด พยายามให้พื้นที่กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด และควรมียาประจำตัวและยาสามัญประจำบ้านติดตัวไปด้วย

วิธีช่วยเหลือตนเองเมื่อตกน้ำ

     หากพลัดตกลงไปในน้ำ ควรจดจำวิธีการช่วยเหลือเพื่อนำไปปฏิบัติตามดังนี้  พยายามว่ายน้ำเข้าหาเรือ หรือเข้าฝั่งให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอันตรายจากกระแสน้ำและแก่งหิน  พร้อมกับพยายามลอยตัวอยู่เหนือน้ำในท่านอนหงาย ยกขาสองข้างขึ้นในระดับผิวน้ำ เพื่อให้เสื้อชูชีพพยุงตัวให้ลอย



    ในขณะที่กำลังถูกน้ำพัดไปเรื่อยๆ ให้เหยียดขาไปตามด้านที่กระแสน้ำไหล เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากการกระแทกของหิน และค่อยๆเตะขาในน้ำ เพื่อช่วยชะลอความเร็วของกระแสน้ำที่พัด  และอย่างอเข่าหรือคว่ำหน้าเพราะจะทำให้ร่างกายไปกระแทกกับสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้
 
    หากไม่มีโอกาสว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง พยายามตั้งสติ และหาที่ยึดเกาะเพื่อรอเรือ หรือทีมช่วยเหลือมารับ  แต่หากตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยว ไม่ควรรีบเกาะเรือยางเพราะกระแสน้ำจะพัดพาเรือไปด้วยความเร็ว อาจได้รับอันตรายจากโขดหินหรือกิ่งไม



ล่องแก่ง แม่น้ำปาย

      แม่น้ำปายเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีต้นกำเนิดมาจากทิวเขาถนนธงชัย และแดนลาว แล้วไหลผ่าน 3 อำเภอในจังหวัดเดียว คือ อ.ปาย-อ.ปางมะผ้า-อ.เมือง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน แต่ละช่วงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม  การล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร



     สำหรับความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจจะถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมาก และระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยแช่ตัวในบ่อโคลน กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี การล่องแก่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น

ล่องแก่งลำน้ำนครนายก
 
    แม่น้ำนครนายก เป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงมากลายเป็น น้ำตกนางรอง ไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำนครนายก ซึ่งไหลมาจากน้ำตกเหวนรก ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระแสน้ำไหลแรงในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณสะพานท่าด่านระดับความยากง่ายในการล่องแก่งขึ้นอยู่กับฤดูกาล ซึ่งในเดือนกรกฎาคม – ตุลาคมจะอยู่ระดับ 2-3 โดยระยะเวลาในการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง



        จุดเด่นของแม่น้ำสายนี้ คือ ตัวแก่งหินสามชั้น กระแสน้ำจะมีลักษณะไหลลดหลั่นกันลงมา คล้ายขั้นบันได เป็นแก่งที่สร้าง ความตื่นเต้น เร้าใจ ได้พอสมควร แก่งหินสามชั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการพายเรือแคนูหรือเรือคยัค นอกจากแก่งหินสามชั้นแล้ว ยังมีแก่งโขดคุ้ง และเกาะแก่ง 

       หลังจากผ่านแก่งต่าง ๆ แล้ว ความรุนแรงของกระแสน้ำจะลดลงเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก คือลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องทำให้เราได้มีโอกาส ฝึกการพายบังคับเรือยางหรือแคนูหรือเรือคยัคให้เลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดการล่องแก่งที่บริเวณวังยาว

      สำหรับแก่งต่างๆ ที่จะล่องผ่านนั้นมีให้พบเจอไม่ว่าจะเป็น แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน  ต่อมาเป็นเกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้งถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้



      ส่วนแก่งหินสามชั้น ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งนางรองนครนายก ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน นักล่องแก่งควรระมัดระวังตัวตั้งใจพายให้ดีเมื่อถึงโค้งหักศอกนี้ เพราะต่อไปจะเป็นแก่งสามชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้น เทลาดเอียง ลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร 

      ที่สำคัญกระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคยัคและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณ แก่งสามชั้นแห่งนี้ แก่งสามชั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในการล่องแก่งนี้ได้พอสมควร การล่องแก่งนางรองนครนายก จะไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว



ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
     
     ลำน้ำเข็กเป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้



    และในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง  ซึ่งแม้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจ ช่วงที่เหมาะสม กับการล่องแก่งลำน้ำเข็กมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – ตุลาคม





ล่องแก่งหนานมดแดง

     แก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่นี่สามารถทำการล่องแก่งได้ทั้งปี บรรยากาศสองฝั่งคลองนั้นยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้นาๆ พันธุ์ และนกประจำถิ่นนาๆ ชนิด ในขณะล่องแก่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นเต้นกับบรรยากาศตลอดเส้นทางแล้ว ยังได้สัมผัสกับ น้ำที่เย็นและใสจนสามารถมองเห็นตัวปลาและสาหร่ายเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริการเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมค้างคืนอีกด้วย
 
ล่องแก่งหินเพิง

         เขาใหญ่ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเทือกเขาอันสูงใหญ่ที่ถอดตัวยาวกั้นขวาง ระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน นับเป็นมรดกส่วนหนึ่งที่ตกทอดมาจากดงพญาเย็น ผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบรูร์อันเปรียบเสมือนฟองน้ำตามธรรมชาติ ที่คอยดูดซับความชุมชื้นของผืนป่าไว้ให้เป็นที่มาของต้นน้ำลำธาร ซึมไหลผ่านลงมาเป็นสายน้ำใหญ่มากมาย นับแต่ห้วยพระยาไกร ห้วยพระเพลิง และจากต้นน้ำอีกมากมายบนบนเขาแหลม และเขาร่มน้อย ที่รวมกันเป็นห้วยใสใหญ่  ไหลหลากผ่านป่าทึบลงสู่หุบเหวเป็นธารน้ำตกวังเหวอันยิ่งใหญ่ จากนั้นก็ลดหลั่นผ่านโขดหินมากมาย จนกลายเป็นแก่งน้ำเชี่ยวในตอนปลายที่รู้จักกันในนาม “แก่งหินเพิง”



ล่องแก่งลำน้ำว้า

     ลำน้ำว้า อยู่ในจังหัวดน่าน คือ ต้นธารสายหนึ่งของแม่น้ำน่าน ที่มีต้นกำเนิดจากเขาจอม บนเทือกเขาผีปันน้ำ อันพาดผ่านชายแดนระหว่าง ไทยลาว ปกคลุมด้วยป่าต้นน้ำในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ลักษณะของสายน้ำกำแพงผาหินสองฟากฝั่งเป็นป่าผลัดใบและป่าเบญจพรรณ  



     สำหรับลำน้ำว้ามีสายน้ำที่เร้าใจและสนุกสนานกับแก่งที่เป็นลูกคลื่น ไม่อันตรายจนเกินไป จัดว่าอยู่ในระดับ 3-4  ด้วยแก่งต่าง ๆ ใน สายน้ำนี้ที่ทอดยาวเป็นระยะ ๆ นับจากจุดเริ่มต้นที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่จริม จะผ่านแก่งน้ำปุ๊ แก่งหลวง แก่งห้วยสาลี่ แก่งต้นไทร แก่งน้ำวนไปจนสิ้นสุดที่หาดบ้านไร่ โดยใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งทั้งสิ้น ประมาณ 4-5 ชม.

ล่องแก่งรันตี

     ล่องแก่งรันตี ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงกองม่องทะ รอยต่อของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก ระยะทางห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรี มีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งต้นกำเนิดของสายน้ำ เกิดจากผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรทางด้านทิศตะวันตกไหลลงมา กลายเป็นแม่น้ำรันตีผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงกองม่องทะ ลอดใต้สะพานรันตีลงสู่อ่างเก็บน้ำเขาแหลมต่อไป



     จุดเด่นของการล่องแก่งลำน้ำสายนี้ อยู่ที่การได้นั่งเรือหางยาวชมทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ชมวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิมที่จมอยู่ภายใต้น้ำเหนืออ่างเก็บน้ำ ตลอดจนวิถีชีวิตชาวมอญและกะเหรี่ยงที่ดำรงชีวิตอยู่สองข้างริมฝั่งน้ำในอ่างเก็บน้ำเขาแหลม ตลอดจนสะพานไม้แห่งแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ

     จากนั้นจึงมานั่งช้างเดินป่าชมวิถีชีวิตของชาวมอญและกะเหรี่ยงเลี้ยงช้าง ซึ่งยังคงดำเนินวิถคชีวิตสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ขี่ช้างข้ามลำห้วยรันตีจนถึงจุดของการล่องแก่งด้วยแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะต้องใช้ไม้ไผ่ถ่อบังคับทิศทางของแพไม้ไผ่ด้วยตนเอง สร้างความสนุกสนาน เร้าใจเป็นอย่างมาก จากนั้นแวะเล่นน้ำตลอดสองข้างทางในการล่องแก่งลำน้ำสายนี้สิ้นสุดการล่องแพไม้ไผ่ที่หมู่บ้านมอญ และกะเหรี่ยงเลี้ยงช้างจากนั้นจึงนั่งเรือหางยาวกลับสู่พีเกสท์เฮ้าส์สถานที่พักแรมต่อไป

    จัดเป็นกิจกรรมนอกบ้านที่สร้างความสนุกสนานได้เป็นอย่างมาก   ซึ่งใครที่ยังไม่เคยมาล่องแก่ง ถ้าคุณชอบความท้าทายต้องหาโอกาสมาให้ได้สักครั้ง และเชื่อว่าจะต้องมีครั้งที่สอง เพราะว่าความสนุกหวาดเสียวครั้งเดียวไม่เคยพอ 

Photo By : chillpainai.com   ,piyadatour - WordPress.com, traveleastthailand.org ,                                       oknation.net/blog/chminivet 
 

คำค้น : กิจกรรมล่องแก่ง , เที่ยวล่องแก่ง , กีฬาล่องแก่ง , ล่องแก่งที่ไหนดี , อยากเล่นล่องแก่ง , แนะนำสถานที่ล่องแก่ง , รีวิวเล่นล่องแก่ง , ล่องแก่งลำน้ำนครนายก , ล่องแก่งแม่น้ำปาย , ล่องแก่งหินเพิง , ล่องแก่งภาคเหนือ , ล่องแก่งภาคอีสาน , ล่องแก่งลำน้ำเข็ก , ล่องแก่งหนามมดแดง , ล่องแก่งลำน้ำว้า , รีวิวล่องแก่งที่ไหน , วิธีการล่องแก่ง , ล่องแก่งรันตี , ล่องแก่งแถวสังขะบุรี กาญจนบุรี